คาร์กิลล์จับมือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี-มหาวิทยาลัยบูรพา
สานต่อโครงการเกษตรอาหารกลางวันให้แก่โรงเรียนที่ขาดแคลน
และจัดโครงการ Smart Farming ส่งเสริมเกษตรกรทำนาอย่างยั่งยืน
โครงการ “Smart Farming” ช่วยเกษตรกรทำไร่นาอย่างยั่งยืนด้วยการจัดการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ผสานเทคโนโลยีโดรนเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร
กรุงเทพฯ (17 กุมภาพันธ์ 2565): คาร์กิลล์ ผู้นำธุรกิจนวัตกรรมอาหารและเกษตรกรรมของโลก ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีและมหาวิทยาลัยบูรพา จัดทำโครงการรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (CSR) โดยสานต่อโครงการเกษตรอาหารกลางวันให้โรงเรียนที่ขาดแคลนต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 และเปิดตัวโครงการ “Smart Farming” ส่งเสริมกลุ่มเกษตรกรให้สามารถทำการเกษตรได้อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ โครงการ “Smart Farming” ได้จัดตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 2564 โดยเป็นความร่วมมือระหว่างคาร์กิลล์และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี แต่ในปีนี้ ได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยบูรพาเข้ามาเพิ่มด้วย โครงการดังกล่าวเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรที่อยู่บริเวณโรงงานของคาร์กิลล์นำน้ำบำบัดจากโรงงานไปใช้ทำการเกษตร รวมถึงอุปกรณ์เทคโนโลยีโดรนเพื่อเพิ่มผลผลิตสูงสุดในไร่ของตน โดยมีตัวแทนจากทั้งสองมหาวิทยาลัยจัดอบรม และให้คำแนะนำเกษตรกรอย่างใกล้ชิด
ความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยให้เกษตรที่อยู่ในบริเวณรอบโรงงานคาร์กิลล์ สามารถจัดการการใช้น้ำจากโรงงานของคาร์กิลล์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และได้ผลิตผลเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ใช้ปริมาณปุ๋ยน้อยลง เกษตรกรจะสามารถรู้จักใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพื้นที่ของตน และในแปลงสาธิตกว่า 30 ไร่ อีกทั้งเป็นการสานต่อโครงการเกษตรอาหารกลางวัน ที่จะขยายพื้นที่ จากแต่เดิมที่เน้นโรงเรียนในจังหวัดนครราชสีมา จะมีการเพิ่มโรงเรียนในจังหวัดสระบุรี ลพบุรี บุรีรัมย์ เข้ามาด้วย โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะทำโครงการสำเร็จใน 70 โรงเรียน ในพื้นที่ภาคอีสาน ภายในปี 2567
ศาสตราจารย์ ดร.หนึ่ง เตียอํารุง คณบดี สํานักวิชาเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ ทางคาร์กิลล์และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ก็ได้ทำโครงการเกษตรอาหารกลางวันด้วยกันมาแล้ว โครงการดังกล่าวเป็นการสนับสนุนให้โรงเรียนในจังหวัดนครราชสีมาสามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยการทำฟาร์มเกษตร และแปลงผักเป็นของตัวเอง เพื่ออาหารกลางวันของนักเรียนที่มีคุณภาพ ซึ่งก็เป็นโครงการที่เรายังคงสานต่อมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังมีโครงการ Smart Farming ที่ทางมหาวิทยาลัยได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดอบรมเกษตรกรในการ ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการสานต่อเจตนารมณ์ในการร่วมกันพัฒนาชุมชนเกษตรกร โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนเป็นหลัก”
ผู้แทนมหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า “ทางมหาวิทยาลัยบูรพามีความรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในความร่วมมือครั้งนี้ ซึ่งก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันของภาครัฐและเอกชน ในการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม โดยคำนึงถึงประโยชน์ของนักเรียนและเกษตรกรเป็นหลัก ซึ่งจะช่วยให้ความเป็นอยู่ของพวกเขาดีขึ้น ภายใต้เป้าหมายการพัฒนาในระยะยาวอย่างชัดเจน”
คุณ สุเกียรติ กิตติธรรมโชติ ผู้อำนวยการฝ่ายภาพลักษณ์และองค์กรสัมพันธ์ บริษัท คาร์กิลล์ สยาม จำกัด กล่าวว่า “สำหรับสิ่งใหม่ๆ ในปีนี้ ผมมองว่ามีสองมิติด้วยกัน อย่างแรก คือในแง่ของการเพิ่มมหาวิทยาลัยบูรพาเป็นพันธมิตรของเราในการดูแลโรงเรียนและเกษตรกรสำหรับโครงการเกษตรอาหารกลางวันในพื้นที่ตะวันออก และอย่างที่สอง คือ โครงการ Smart Farming ที่มหาวิทยาลัยทั้งสองแห่งจะเป็นผู้มอบองค์ความรู้ในด้านเกษตรและเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งจะช่วยพัฒนาศักยภาพของเกษตรกรให้เพิ่มมากขึ้น เป็นความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ในการร่วมมือกันใช้จุดเด่น และจุดแข็ง ของกันและกันเพื่อส่งเสริมการทำกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทคาร์กิลล์ที่เน้นการพัฒนาโลกอย่างยั่งยืน และสนับสนุนภาคเกษตรกรรมให้สามารถพัฒนาไปได้อย่างยั่งยืน”
สำหรับโครงการ Smart Farming มีเกษตรกรร่วมโครงการจำนวน 20 ครัวเรือน หรือประมาณ 50 คน ในปี 2564 โดยจากผลสำรวจพบว่าเกษตรกรที่เข้าร่วมอบรมมีความรู้ด้านการเกษตรเพิ่มมากขึ้นหลังการอบรมถึง 82% จากเดิม 51% โดยในปีนี้ มีการตั้งเป้าเกษตรกรที่จะร่วมอบรมอยู่ที่ 40 ครัวเรือน หรือประมาณ 70 คน โดยใช้แปลงสาธิต 40 ไร่
Media Contact: [email protected]
เกี่ยวกับ Cargill
Cargill มุ่งมั่นที่จะจัดหาอาหาร วัตถุดิบ ทางออกทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเพื่อหล่อเลี้ยงโลกในทางที่ปลอดภัย มีความรับผิดชอบและยั่งยืน เราได้ร่วมมือกับเกษตรกรและลูกค้าซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของซัพพลายเชน ในการจัดหา ผลิต และส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิต
พนักงานของเราราว 160,000 คนมุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมด้วยจุดมุ่งหมาย เพื่อมอบสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตให้กับลูกค้า เพื่อให้ธุรกิจเติบโต ชุมชนเจริญรุ่งเรือง และผู้บริโภคมีชีวิตที่ดี ด้วยประสบการณ์ 160 ปีในฐานะบริษัทครอบครัว เรามองไปที่อนาคตขณะที่ยังคงยึดมั่นในค่านิยมของเรา เราให้ความสำคัญกับผู้คนเป็นอันดับแรก เรามุ่งสู่จุดหมายที่สูงกว่า เราทำในสิ่งที่ถูกต้อง ทั้งในปัจจุบันและอนาคตที่กำลังจะมาถึง ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Cargill.com และศูนย์ข่าวสารของเรา